10 ข้อคิดควรรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ
มีผู้สนใจหลายรายต้องการทราบว่า พวกเรามีหลักและวิธีการทำงานอย่างไร ในการเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบ Business Model และ Business Strategy
คำตอบของเราคือ ในขั้นแรก เราจะเริ่มจากการพูดคุยกับลูกค้าด้วยคำถามเพียง 10 ข้อ จุดประสงค์คือเราต้องการให้ลูกค้าแน่ใจถึงธุรกิจที่เค้ากำลังจะเริ่มต้นว่ามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วหรือไม่เพียงใด ธุรกิจนั้นมีพื้นฐานหรือศักยภาพการแข่งขันแค่ไหนในมุมมองของผู้เป็นเจ้าของ
10 คำถามในขั้นตอนที่ 1 นี้สำคัญมาก สำคัญขนาดชี้เป็นตายให้กับธุรกิจได้เลย เพราะธุรกิจใดๆ ที่เจ้าของยังไม่สามารถตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้ชัดเจนแล้ว ธุรกิจนั้นจะเหนื่อยมากในการดำเนินกิจการ
คำถามทุกข้อของเราจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจถึง Big Idea ของธุรกิจตนเอง และช่วยค้นหา กลั่นกรองแนวความคิดของธุรกิจให้ตกผลึกออกมาเป็นรูปธรรมได้ รวมถึงจะสะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบการทำธุรกิจที่ลูกค้ามีอยู่ในใจนั้นเหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่ อะไรคือแนวทางที่ใช่
หลังจากจบขั้นตอนที่ 1 แล้ว เราจึงนำลูกค้าเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบ Business Model ที่มีเอกลักษณ์ แข่งขันได้และใส่ความเป็นตัวตนของลูกค้าเข้าไปในนั้นให้มากที่สุด
นี่คือคำถามทั้ง 10 ข้อของเรา
1. คุณจะนำเสนออะไรให้ลูกค้า คุณจะขายอะไรให้ผู้บริโภค รู้ได้อย่างไรว่าลูกค้าของคุณต้องการหรือจำเป็นต้องมี/ซื้อสิ่งนี้ และมันสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไร
2. กลุ่มลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย ใครคือลูกค้าของคุณ เค้ามีลักษณะ/พฤติกรรม/ความสนใจในเรื่องใด (attributes/behaviour/interest) และคุณจะไปหาเค้าได้จากไหน มีวิธีการใดที่คุณจะสื่อสารไปหาเค้าเหล่านั้น
3. คู่แข่งขันในตลาด คุณแข่งหรือกำลังจะเข้าไปแข่งกับใคร แข่งด้วยวิธีไหน มีอะไรที่คุณศึกษาเรียนรู้จากคู่แข่งมาแล้วบ้าง
4. ตลาดที่คุณจะเข้า ธุรกิจของคุณมีความเหมือนหรือต่างจากคู่แข่งรายอื่นอย่างไร มีเทรนด์ที่สำคัญอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบถึงตลาดนี้ และคุณคาดการณ์อนาคตของตลาดนี้ไว้ว่าอย่างไร
5. ช่องทางการขาย มีวิธีการขายสินค้าหรือเข้าถึงตัวลูกค้าได้อย่างไร
6. ความสัมพันธ์ทางการเงินกับลูกค้า ธุรกิจของคุณมีวิธีการขายและจัดการกับการชำระเงินของลูกค้าเป็นอย่างไร เป็นการขายเครดิต ขายแบบบอกรับสมาชิก ผ่อนชำระ หรือมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถใช้เทคนิคด้านการเงินเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
7. การตั้งราคา วิธีการตั้งราคาขาย ที่มาและความสมเหตุสมผลของราคาที่ตั้ง ใช่ราคาที่ลูกค้าเต็มใจจะจ่ายหรือไม่
8. พันธมิตรทางธุรกิจ ใครคือตัวช่วยหลักในการทำธุรกิจ Supplier ตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ เอเจนซี่ มีกี่ราย บริษัทเหล่านั้นมีศักยภาพพอไหมที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของคุณได้
9. ของดีในตัว อะไรคือ asset ที่ธุรกิจคุณมีอยู่และทำให้ธุรกิจของคุณมีแต้มต่อเหนือคนอื่น เช่น ชื่อเสียง สิทธิบัตร เงินทุน เครือข่ายการกระจายสินค้า
10. จุดแข็งของธุรกิจ อะไรคือจุดแข็งที่คุณมีแล้วคู่แข่งอื่นๆ ไม่มี คุณมีความชำนาญหรือประสบการณ์อะไรที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจของคุณบ้าง
เมื่อลูกค้าสามารถตอบคำถามด้านบนทั้งหมดนี้ได้อย่างขัดเจนแล้ว เราจึงก้าวเข้าสู่ขั้นต่อไปของการออกแบบ Business Model และการวางกลยุทธ์ด้านต่างๆ ของธุรกิจให้ลูกค้า เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การขาย การกระจายสินค้าและการตลาด
แต่สิ่งที่เราอยากย้ำกับทุกท่านตรงนี้คือ มีเพียง 20% ของลูกค้าเท่านั้นที่เราเคยให้คำปรึกษา แล้วสามารถตอบคำถามทั้ง 10 ข้อได้อย่างชัดเจนและสอดคล้องกัน ซึ่งนั่นหมายถึงลูกค้ารายนั้นมีความเข้าใจ ชัดเจนในเป้าหมายและมีความพร้อมจริงในการเริ่มต้นธุรกิจ
สุดท้าย การที่ลูกค้ายังไม่สามารถตอบคำถามทั้ง 10 ข้อนี้ได้ในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเค้าควรจะล้มเลิกความตั้งใจในการเริ่มธุรกิจ เพียงแต่เราต้องการชี้ให้เห็นว่านี่เป็นเพียงสัณญาณเตือนว่าลูกค้ายังไม่มีความชัดเจนในสิ่งที่เค้ากำลังจะเริ่มทำ เค้าควรกลับไปเตรียมความพร้อมมาให้มากกว่านี้อีกจนกระทั่งมีคำตอบที่ชัดเจนอยู่ในระดับก้นบึ้งของความคิดเรียบร้อยแล้วจึงกลับมาเริ่มตั้งต้นธุรกิจกันใหม่
อย่างน้อย การเริ่มต้นช้าไปเล็กน้อยแล้วประสบความสำเร็จ ย่อมดีกว่าการเริ่มต้นอย่างรีบเร่งแล้วนำมาซึ่งความเสียหายในตอนหลัง หรือที่เค้าเรียกว่า Slow But Sure ก็คงไม่ผิดนัก