วิเคราะห์เรื่อง Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิ แบบจิตวิเคราะห์ โดย Deep Film
หลังจากดู Wind Rises ซึ่งดูเหมือนว่า จะมีเค้าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของพ่อและแม่ของ Miyazaki เองซ้อนอยู่ด้วย* (ขยายความด้านล่างสุด) แต่ไม่รู้สึกอยากจะเขียนวิเคราะห์ เพราะมันก็เป็นอย่างที่เห็น เลยกลับมาดูงานเก่าๆ ของ Miyazaki แล้วนึกคึกเขียนวิเคราะห์แบบยาวเหยียดทีเดียว
การทำความเข้าใจ Spirited Away แบบ Deep Film จะตีความแนวจิตวิทยาไปเรื่อยๆ ตามลำดับเนื้อเรื่อง แต่ทว่าเรื่องนี้มีความเป็นญี่ปุ่นและมีความเชื่อทางศาสนา Shinto เกี่ยวกับวิญญาณสถิตในธรรมชาติ (Kami) ซึ่งมีทั้งด้าน positive และ negative มีทั้งเทพ (Kami-sama) และปีศาจ (Yokai) อยู่ด้วยตลอดทั้งเรื่อง หลายๆ จุด อาจไม่สามารถมองจากแนวจิตวิทยาได้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะชี้ชัดความหมาย จะออกแนวนัวๆ เบลอๆ ผสมผสาน ซะมากกว่า อันที่จริง โลกในจิตใจมนุษย์เรานั้นก็มีตัวอะไรแปลกๆ เยอะแยะ เดินไปเดินมา แต่อาจไม่น่ารักอย่างใน animation ของ Miyazaki เราอาจพอทำความเข้าใจตัวเหล่านั้นได้บ้างบางส่วน แต่ไม่อาจจะเข้าใจได้ทั้งหมดหรอกนะ เพราะจิตสำนึกของมนุษย์เรามีขอบเขตจำกัด แต่ไม่ว่าจะมองว่ามันเป็นวิญญาณ หรือจะมองว่าเป็น Archetypal images ในจิตไร้สำนึก การที่การ์ตูนเรื่องนี้ดังไปทั่วโลกก็แสดงให้เราเห็นได้ว่า มันมีธีมสากล (Universal theme) ที่ไม่ติดอยู่ในกรอบของเชื้อชาติ ศาสนา และเราสื่อถึงมันได้
เปิดเรื่องมา Chihiro กำลังงอแง เพราะอยู่ระหว่างการเดินทางย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน และยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยรุ่น เธอกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง และไม่สามารถทำใจยอมรับได้ ยังยึดติดกับเพื่อนที่โรงเรียนเก่าและความคุ้นเคยเก่าๆ อยู่ เธอกำดอกไม้และการ์ดอวยพรไว้แน่นขณะนั่งอยู่ในรถ ฉากเปิดสั้นๆ Dynamic สูง ชัดเจนในเนื้อหา บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนผ่าน (Transition) และอดีตที่ไม่อยากปล่อยวาง
การที่ไม่สามารถที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้นั้น ทำให้หลงทางเข้าไปในโลกวิญญาณ หรือจะมองอีกแง่คือโลกในจิตใจของตัวเอง ขับรถหลงข้ามสะพานมา ขับผ่านประตูวิญญาณ ‘Torii’ สัญลักษณ์บอกเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ตรงต้นไม้ใหญ่และมีบ้านวิญญาณ ที่เหมือนศาจเจ้าเล็กๆ มากมายวางอยู่ เดินผ่านอุโมงค์ โผล่มาเจอสถานีรถไฟเก่าที่มีความเป็นตะวันตก ชวนให้นึกถึงสมัยสงครามโลก ซึ่งน่าจะเป็นความทรงจำของตัว Hayao Miyazaki เองที่เกิดช่วงกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีวัยเด็กในยุคหลังสงครามโลก สถานีรถไฟนี้เป็นจุดตัดผ่านระหว่างโลกทันสมัย vs โลกโบราณ มนุษย์สร้าง vs ธรรมชาติ พ้นจากจุดนี้ไปคือโลกวิญญาณจริงๆ แล้วนะ ตอนที่ Chihiro และพ่อแม่ออกมาจากสถานีรถไฟ เป็นช่วงเวลาเกือบๆ 4 โมง ใกล้จะเย็นแล้ว เดินผ่านทุ่งหญ้า ซากรูปปั้นเทพ และทางเดินกรวดหิน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นพื้นทะเล ข้ามมาสู่ฝั่งโลกวิญญาณ มีร้านรวง และอาหารมากมาย แต่ไร้ผู้คน
พ่อแม่ของ Chihiro ตะกละ ไร้มารยาท ซึ่งก็เป็นความโลภชนิดหนึ่ง ล่วงเกินกินอาหารสำหรับเทพ ไม่ใช่ของตัวเอง ไม่ได้ทำงานแลกมันมา จึงตกอยู่ภายใต้อำนาจของ Yubaba แม่มดดำ ผู้บ้าอำนาจและโลภมาก และถูกสาปให้เป็นสัตว์ (หมู) เพื่อรอปรุงเป็นอาหารให้กับเทพ
Chihiro พบกับมังกรหนุ่มน้อย Haku (positive masculine side/animus) ที่กลางสะพานแดง เขาเป็นมิตร และเตือนให้เธอรีบกลับไป ก่อนพลบค่ำ แต่สายไปแล้ว เมื่อสิ้นแสงตะวัน โลกวิญญาณก็ตื่นขึ้น
ที่อีกฟากของสะพานแดง มีโรงอาบน้ำแบบญี่ปุ่นโบราณอยู่ สถานที่สำหรับชำระล้างจิตวิญญาณของเหล่าเทพ (Kami) หรือ สปาเทพ วิญญาณก็ต้องการการผ่อนคลาย และชำระล้างเป็นเนืองนิตย์ เพื่อให้ positive อยู่เสมอ แต่ต้องจ่ายค่าอาบด้วยนะ anime เรื่องนี้เน้นมากว่า ไม่มีอะไรได้มาฟรี!
Haku จำ Chihiro ได้ และคอยช่วยเหลือเธอ แต่เขากลับจำตัวเองไม่ได้ เพราะชื่อของเขาถูกแม่มด Yubaba ขโมยไป จึงต้องทำงานเป็นทาสรับใช้แม่มด แล้วแต่ป้าจะสั่งการ คนที่ลืมชื่อหรือ identity ของตัวเอง ไม่รู้ว่าตนเป็นใคร มีความต้องการอะไร ก็จะตกเป็นทาสให้กับผู้ที่มีพลังอำนาจเหนือกว่า สามารถถูกบงการไปในทิศทางที่ไม่ดี ทำเรื่องชั่วร้ายได้ Haku ให้ Chihiro กินยาเม็ดสีแดง บอกว่าต้องยอมรับของจากโลกวิญญาณ ตัวเธอก็จะไม่สลายหายไป และมีพละกำลัง เป็นนัยยะว่า ให้ “ยอมรับ” การมีอยู่ของโลกวิญญาณ หรือโลกในจิตไร้สำนึก และยอมรับสิ่งต่างๆ ในนั้น เพราะมันก็เป็นส่วนหนึ่งของเธอ ถ้าเธอปฏิเสธ ก็เท่ากับปฏิเสธตัวเธอเอง แล้วเธอจะหายไป ไร้ตัวตน แน่นอนว่าในโลกวิญญาณนี้มีทั้งตัวที่ดี และตัวที่ไม่ดี มีอะไรๆ แฟนตาซีมากมายทีเดียว คิดไปอีกแง่ นึกถึง ยาเม็ดสีแดงในเรื่อง Matrix ประมาณนั้นเลย ถ้าอยากเห็นโลกอย่างที่มันเป็น ให้กินเม็ดสีแดง
นอกจากนี้ Haku ยังแนะนำให้เธอไปของานทำกับ ลุงต้มน้ำสมุนไพร Kamajii เพราะถ้าอยากมีตัวตนในโลกวิญญาณต้องมีงานทำ ต้อง Active ต้องมี purpose ของการดำรงอยู่ ไม่งั้นก็จะถูกสาปเป็นสัตว์ แต่ Kamajii ไม่มีงานให้ทำ เลยส่ง Chihiro ให้ไปของานกับ Yubaba โดยให้ Lin วิญญาณผู้หญิงคล่องแคล่ว พาไป Chihiro ได้ผูกมิตรกับ Kamajii และ Lin และพวกตัวฝุ่น/ตัวขี้เถ้า
Kamajii เป็นแมงมุมขยัน ทำงานเก่ง มีตั้ง 6 มือ 2 ขา ปกติจะไม่ค่อยเห็นแมงมุมในบท positive (ก็มี Spider Man) เรื่องนี้นำเสนอในแง่ขยันขันแข็ง คงเหมือนแมงมุมที่ขยันสร้างใย Kamajii จุดมุ่งหมายชัดเจน คือปรุงน้ำต้มสมุนไพรสำหรับอาบ เขารู้หน้าที่เขาและก็ทำได้ดี สมุนไพรมีความเป็นธรรมชาติและเป็นยา ดีกับร่างกาย ดีกับจิตใจ (Healing) Kamajii จึงเป็นตัวแทนของ positive masculine side ที่เน้นด้านการทำงาน และการรักษา คอยช่วยเหลือ Chihiro และ Haku เขาสอนเกี่ยวกับเรื่องการทำงานได้น่าสนใจ
1. ตอนที่ Chihiro ไปยกก้อนถ่านมาจากตัวฝุ่นที่ถูกทับ แล้วเธอทำท่างงว่าจะทำอย่างไรต่อ ลุง Kamajii เอ็ดว่า “เริ่มอะไรไว้ก็ทำต่อให้เสร็จ” ทำอะไรต้องทำให้ตลอดรอดฝั่ง อย่าจับจดครึ่งๆ กลางๆ ทำมึนงง ลุงแกสอนดีนะ
2. หลังจากที่ Chihiro ยกถ่านหินแทนตัวฝุ่น ตัวฝุ่นตัวอื่นเริ่มเกเรไม่ยอมทำงาน หวังจะให้เธอทำแทน ลุงแกก็สอนว่า “อย่าไปเอางานของคนอื่นมาทำ เพราะถ้าตัวฝุ่นไม่มีงาน มนต์จะเสื่อม และมันก็จะหายไป” คนที่ไม่มีจุดมุ่งหมาย (purpose ของการดำรงอยู่) คนที่ไม่ทำงาน ก็คือ ไร้คุณค่า ไร้ตัวตน
3. ลุงแนะให้ Chihiro ไปพบแม่มด (เผชิญหน้ากับด้านมืด) และยืนยันที่จะขอทำงาน เพราะที่โรงต้มน้ำมีผู้ช่วยเหลือเฟือแล้ว ไปแย่งงานพวกเขาก็ไม่ควร
เนื่องจาก Chihiro ช่วยตัวฝุ่นยกถ่าน เป็นการผูกมิตรอย่างหนึ่ง ตัวฝุ่นเลยชอบ Chihiro คอยเก็บรองเท้าถุงเท้าไว้ให้
Lin, positive feminine side ที่ทำงานคล่องแคล่ว ช่วยพา Chihiro ไปพบ Yubaba ระหว่างทางขึ้นลิฟท์ ยังมีเทพร่างยักษ์ ที่ใส่ผ้าเตี่ยวแดง มีหนวดยาวสองข้าง (นึกถึงโสมเกาหลีอวบยักษ์ เพิ่งรู้ว่าคือ Radish spirit) เดินตามมา ดูๆ แล้วเหมือนว่ามาช่วย Chihiro ให้แอบขึ้นลิฟท์ได้สำเร็จมากกว่านะ คือในโลกนี้มีตัวแปลกๆ ทั้ง positive และ negative อยู่ปะปนกันน่ะ เจอตัวดีก็ดีไป ตัวไม่ดีก็ระวังไว้
Chihiro ยืนยันของานทำกับแม่มด Yubaba ถึง 5 ครั้ง เธอหนักแน่นและมั่นคงในสิ่งที่ต้องการมาก Yubaba เคยเอ่ยคำสาบานไว้ว่าจะให้งานกับผู้ที่มาขอ ซึ่งตีความได้ว่า ความโลภและบ้าอำนาจ ไม่อาจต้านทานพลังของความมุ่งมั่นและหนักแน่น ถ้าคิดจะอยู่ในโลกวิญญาณต้อง Active (ทำงาน) ถ้า Passive ก็จะถูกกลืนกิน หายไปในที่สุด โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เราต้องใช้แรงกายแรงใจแลกกับการHaku เป็นผู้แนะเคล็ดลับในการรับมือกับด้านมืดนี้ แต่จุดหมายสูงสุดของเธอคือการช่วยพ่อแม่ให้พ้นจากการเป็นหมู แต่ถึงกระนั้น Chihiro ก็ถูกขโมยชื่อ ขโมยตัวตนไปเมื่อเซ็นสัญญาทำงาน ใน Studio Ghibli Wikia เขียนไว้ว่า “Chihiro แปลว่า a thousand fathoms”ซึ่งหมายถึงน้ำลึกพันแฟธอมส์ น้ำลึก โลกใต้น้ำลึก (ชวนให้นึกถึง หนัง/หนังสือ ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์) หรือกล่าวในแง่เปรียบเปรยก็คือ จิตไร้สำนึก/โลกวิญญาณ หลังจากขโมยชื่อ Chihiro ไปแม่มดตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Sen ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชื่อเต็มของเธอ เธอยังมีความเป็นเธอเหลืออยู่ แต่แค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น และให้เปลี่ยนเสื้อผ้าและใส่เครื่องแบบพนักงาน ซึ่งเหมือนๆ กันหมด ไม่มีเอกลักษณ์ ภายหลัง Haku แอบนำเสื้อผ้าชุดเก่าและการ์ดอวยพรมาคืนให้ Chihiro สายสัมพันธ์กับเพื่อนโรงเรียนเก่า การ์ดอวยพร มีชื่อเธอเขียนอยู่ ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วเธอชื่ออะไร เธอเป็นใครเสื้อผ้าบ่งบอกบุคลิก สะท้อนความเป็นตัวตน ความสัมพันธ์กับเพื่อนคอยเตือนให้ระลึกถึง ความทรงจำต่างๆ ช่วยให้ไม่ลืมว่าเราเป็นใคร สิ่งของและผู้คนรอบตัวก็เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนตัวตนของเรา และทำให้เรารู้สึกถึงการดำรงอยู่
แม่มด Yubaba วันๆ นั่งส่องเพชรพลอย ชื่นชมทรัพย์สินที่ได้จากการเปิดโรงอาบน้ำที่ใช้แรงงานทาส ด้วยการขโมยชื่อ สัญลักษณ์แทนตัวตน ของวิญญาณเหล่านั้น Yubaba เป็นสัญลักษณ์ของ ด้านมืดของแม่ negative mother ซึ่งบ้าอำนาจ จอมบงการ โลภ และวัตถุนิยม ด้านตรงข้ามของเธอคือ ฝาแฝด Zeniba ที่ใช้วิตแบบเรียบง่าย สมเหตุสมผล และมีเมตตา Yubaba ต้องการดูดกลืนด้านที่ดีงามของตัวเอง จึงใช้ให้ Haku ไปขโมยตราประทับชื่อ (Seal) ของ Zeniba มา ตราประทับชื่อเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสั่งการ เป็นสัญลักษณ์แทนตัวของเจ้าของตรา ขโมยตราประทับ = ขโมยชื่อ = ขโมยตัวตน ถ้า Yubaba ได้ตราประทับนี้มาครอง เธอก็จะมีอำนาจเหนือ Zeniba และจะไม่มีตัวถ่วงดุล ความโลภ และความบ้าอำนาจก็จะปกครองจิตวิญญาณ ถ้าโลกนี้เป็นโลกในจิตของ Chihiro แล้วในนั้นมีด้านมืดอย่าง Yubaba คอยบงการจิตใจอยู่ ชีวิต Chihiro จะเป็นอย่างไร?
Boh โบจัง เด็กโข่งจอมงอแง สัญลักษณ์ของ ‘Eternal child’ (Puer aeternus) เด็กไม่มีวันโต หรือผู้ใหญ่ที่มีพัฒนาการทางอารมณ์เทียบเท่าเด็ก ถ้าเป็นหนังจีนกำลังภายในมักจะมาในรูปของเฒ่าทารก ด้านบวกของ Eternal child ก็มีนะ เช่น ความเป็นเทพ มีพลังและมี potential หนูโบเอาแต่ใจ เพราะโดนกักขัง โดยแม่ที่บ้าอำนาจ ไม่ให้อิสระลูกตัวเอง การปกป้องเกิน (overprotection) ไม่ใช่ความรัก หากแต่เป็นความบ้าอำนาจชอบควบคุม กักขังน้องโบไว้ ประเคนด้วยขนมและของเล่น แต่ไม่ฝึกให้เขาเดินด้วยตัวเอง ไม่ให้อิสระที่จะเรียนรู้และเติบโต ข่มขู่ว่าข้างนอกมีแต่เชื้อโรคและอันตราย กดให้เป็นเด็กเล็กอยู่ตลอด จะได้อยู่กับแม่ไปไหนไม่ได้ นี่เป็นอีกลักษณะหนึ่งของด้านมืดของความเป็นแม่ (negative mother) แอบสงสัยว่าจริงๆ หนูโบน่าจะแก่มากแล้ว เพราะแม่หน้าเหี่ยวราวกับทวดของทวด คงเก็บลูกไว้ในห้องมาหลายศตวรรษแล้วล่ะสิท่า! Boh ตื่นนอน ร้องงอแง ตอนที่ Chihiro มุ่งมั่นจะของานทำ เป็นความมุ่งมั่นที่ปลุกเด็กงอแงไม่รู้จักโตให้ตื่นขึ้นและพยายามจะเดินออกมานอกห้อง
ฉากเด็ดต่อมา คือตอนที่ Chihiro รับเงินจากเทพแม่น้ำตัวเหม็นเน่าแล้วขนลุกซู่ ดูแล้วรู้สึกเหม็นไปด้วยเลย เทพแม่น้ำเน่า ก็สะท้อนความเป็นจริงของโลก ที่มนุษย์ทำให้น้ำในแม่น้ำสกปรก เต็มไปด้วยขยะ แม้แต่เทพที่มีฤทธิ์ชำระล้าง ยังต้องมาขอความช่วยเหลือให้ชำระล้างให้เลย สิ่งที่ได้จากเทพแม่น้ำมีสองอย่าง
1. ‘ในขี้มีทอง’ ในสิ่งสกปรก น่ารังเกียจ ก็มีสิ่งล้ำค่าซ่อนอยู่นะ เช่นในขยะที่เอาออกมาจากเทพแม่น้ำมีทองอยู่ด้วย ถ้ารีบปฏิเสธความเน่าเหม็นไปซะก่อนก็จะไม่ได้ทอง หรือในแง่เปรียบเปรย ในสิ่งที่ดูไม่สวยงามมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ ในด้านมืดมี potential
2. ‘ทำดีได้ดี’ Chihiro บริการอาบน้ำให้เทพแม่น้ำอย่างขยันขันแข็ง ได้รับรางวัลเป็นก้อนขนมกลมๆ เขียวๆ ซึ่งต่อมา ใช้ช่วย Haku และ No-Face ได้ เพราะมีฤทธิ์ขับของเสีย ทำให้อาเจียนออกมา Chihiro ลองกัดกินไปนิดนึง แต่สำลักด้วยรสชาติ แต่ไม่อาเจียนอะไรออกมา อาจเธอเพราะไม่มีของเสีย สิ่งแปลกปลอมข้างใน
Haku ในร่างมังกรบาดเจ็บสาหัสเพราะ Yubaba สั่งให้ไปขโมยตราประทับของ Zeniba แต่โดนเวทย์มนต์ปกป้องตราประทับของ Zeniba ไล่ทำร้าย Zeniba ที่แฝงมาในรูปนกกระดาษ แอบเกาะหลัง Chihiro ที่ปีนบันไดอย่างกล้าหาญขึ้นไปช่วย Haku บนห้องของ Yubaba Chihiro ไม่ยอมตามใจ Boh ที่งอแงจะให้เล่นกับเขา แต่เพราะไม่ตามใจ Boh เลยเดินออกมาข้างนอกห้องเอง และ Zeniba ในร่างจำแลง ได้แปลงร่าง Bohให้กลายเป็นหนู และแปลงอีกาให้เป็นนกจิ๋ว เป็นการให้โอกาส Boh ได้ออกเดินทางผจญภัยใช้ชีวิตนอกห้องนอน ด้านแม่ที่ดีจะให้อิสระและส่งเสริมการเรียนรู้ สำหรับอีกาที่หน้าเหมือน Yubaba เหมือนเป็นสัตว์ภูติรับใช้ของ Yubaba หรืออาจเป็นเศษเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ Yubaba เองที่แบ่งมาไว้เฝ้าโบจังและห้องทำงาน การที่โดนเสกให้เป็นนกจิ๋วแล้วออกเดินทางไปข้างนอก ก็เหมือนได้ tame & educate Yubaba ไปด้วยทางหนึ่ง
Chihiro เอาก้อนกลมๆ เขียวๆ ที่ได้รับจากเทพแม่น้ำ ยัดใส่ปากให้ Haku เขาอาเจียนตราประทับ และหนอนปรสิตหลุดออกมาด้วย ปรสิตวันๆ ไม่ทำอะไร แอบอยู่ในตัวเราแล้วคอยดูดเอาสารอาหารจากร่างกายเราไปใช้เพื่อประโยชน์ของมัน เจ้าหนอนปรสิตนี่คือสมุนของ Yubaba คอยบงการ ใช้พลังงานของ Haku ให้ทำเรื่องเลวๆ เช่น ขโมยตราประทับ เราเสียสารอาหารให้หนอนพยาธิ เปรียบได้กับเราเสียพลังกายใจของเราเพื่อวัตถุประสงค์ของผู้อื่น ‘ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของตัวเรา’ จะขจัดได้ ต้องเหยียบให้ตายคาตีน! ด้วยเท้าของคนที่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร เพราะถ้าเรารู้ชัด เราจะไม่ถูกชักจูงไปทำประโยชน์ให้คนอื่น หรือทำเรื่องชั่วร้าย ว่าแต่ฉากนี้ หนูโบ อีกาและตัวฝุ่นเล่นกันน่ารักดีนะ
No-Face (Kaonashi) ปีศาจไร้หน้า ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่มีวัตถุประสงค์ของตัวเอง ไม่มีที่ไป ได้แต่ยืนเหมือนผีเร่ร่อนอยู่ที่สะพานแดง ไม่มีใครให้ความสนใจ (นึกถึง Nowhere Man ของ The Beatles) จนกระทั่ง Chihiro เดินผ่านเขาที่สะพานแดง หันไปมอง เธอให้ความสนใจเขา เธอโค้งทักเขา เขาจึงสนใจเธอและตามเธอมา Chihiro ยังเบลอเปิดประตูชวนให้เขาเข้ามาในโรงอาบน้ำด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะ No-Face ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่มีหน้า ไม่มีชื่อ พอเห็นว่าใครต้องการอะไร มันก็เสกสิ่งที่คนอื่นต้องการให้ เพื่อเอาใจเขา เพื่อจะได้รู้สึกมีตัวตนและเป็นที่รัก เป็นที่ยอมรับ แต่ว่าสิ่งที่เสกออกมาให้ ล้วนแต่เป็นภาพลวงตาที่เสกจากเศษดินทรายไร้ค่า เพราะมันไม่ใช่ของจริง ไม่มีความจริงแท้ หรือจริงใจ เป็นเพียงมายา หรือความว่างเปล่า No-Face ชอบ Sen หรือ Chihiro เพราะเธอเป็นคนเดียวที่สนใจเขาโดยที่เขาไม่ต้องให้อะไรเธอก่อน ทำให้เขารู้สึกมีตัวตน จึงพยายามเอาใจ เห็นเธออยากได้ป้ายขอน้ำสมุนไพร ก็หยิบมาให้ (ขโมย) แต่ Chihiro ก็รับมาเท่าที่จำเป็น No-Face เอามาให้อีกเธอก็ไม่รับ เขาไม่เข้าใจ เสกทองให้เธอ เธอก็ไม่รับ ยิ่งทำให้เคือง ไล่กินคนงานในโรงอาบน้ำ พอกินตัวไหนเข้าไปก็มีลักษณะเหมือนตัวนั้น เช่น เสียง ท่าทาง จะเห็นว่า No-Face ไม่มี identity หรือบุคลิกของตัวเอง ได้แต่ลอกเลียนแบบคนอื่นไปเรื่อยๆ ได้รับอิทธิพลของคนรอบข้างง่ายเกินไป คนที่โลภมากอยากได้ทองจาก No-Face ก็ถูกกิน Chihiro รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและไม่ต้องการอะไร เธอมีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่โลภ รู้จักพอ ไม่หลงไปกับความจอมปลอมที่เขาหยิบยื่นให้ จึงไม่ตกเป็นเหยื่อ และทำให้ No-Face ไล่ตาม คงจะชอบเธอมากสิท่า ที่น่าเศร้าก็คือ มีคนที่เป็นแบบ No-Face มากมายนักในโลกปัจจุบัน และที่เศร้ายิ่งกว่าคือพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็น
Chihiro จะนำตราประทับไปคืนและขอโทษ Zeniba เพื่อจะช่วย Haku ที่บาดเจ็บและไม่ได้สติ การจะพบ Zeniba ต้องเดินทางไป ‘สถานีก้นบึ้ง’ Zeniba อยู่ไกลออกไป อยู่ลึกลงไปในจิตใจ แค่ความพยายามและมุ่งมั่นจะไป ยังไม่พอ Chihiro คงไปไม่ได้ถ้าไม่ได้ผูกมิตรกับ ลุง Kamajii ลุงให้ตั๋วรถไฟวิญญาณ ที่เก็บมาตั้ง 40 ปี มีตั๋วอยู่ 4 ใบ (คิดเอาเองว่า ทำงาน 10 ปีวิญญาณคงได้มาใบนึงมั้ง) คือการจะได้ตั๋วเดินทางไปด้านไกลๆ ลึกๆ ทางจิต ต้องใช้ความพยายาม ใช้เวลาสั่งสม ลุงแกขยันทำงานมาตลอด จึงได้มันมาครอบครอง แต่ก็มอบให้กับ Chihiro ฟรีๆ เพราะเอ็นดู ในความรักความห่วงใยของเด็กสาวที่มีต่อ Haku แต่มีแค่ตั๋วขาไปไม่มีขากลับนะ มีความเป็นไปได้มากที่เวลาลงลึกไปในจิตใจ หรือโลกวิญญาณ แล้วจะกู่ไม่กลับ อาจถูกดูดกลืนหายไป การจะกลับมาได้นั้น ต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า หรือได้รับความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ตัวฝุ่นยังแบกรองเท้ามาให้ แล้ว Lin ก็ช่วยพายเรือไปส่งที่สถานีรถไฟด้วย Chihiro ได้รับความช่วยเหลือจากมิตรมากมาย และเจ้า No-Face ที่อาเจียนของที่เขมือบเข้าไปออกมาจนหมดแล้ว ก็ยังตามมาสมทบ ขอขึ้นรถไฟด้วย
Chihiro นำตราประทับไปคืน Zeniba เธอได้ทำ good deed และสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับ feminine ด้านบวก ตอนลงจากรถไฟที่สถานีก้นบึ้ง Chihiro และแก๊ง ต้องเดินบนทางเดินมืดๆ เปลี่ยวๆ แต่ Zeniba ก็ส่งโคมไฟขาเดียวกระโดดมาส่องแสงนำทาง เปรียบได้กับด้าน positive ที่อยู่ในรูปของหญิงชราผู้ทรงปัญญานี้ มีคุณสมบัติในการให้แสงสว่าง เป็นไกด์นำทางในความมืดหรือในโลกแห่งจิตไร้สำนึก (อัพเดท 25/08/14) Zeniba มีเมตตาและรู้จักให้อภัย เธอไม่โกรธเคือง Haku เพราะรู้ว่าถูก Yubaba บงการ… Zeniba บอกกับ Chihiro ว่าถ้าจะช่วยพ่อแม่ให้พ้นคำสาปหมู เธอต้องทำด้วยตัวเอง แต่ Zeniba Boh อีกาจิ๋ว และ No-Face ช่วยกันปั่นด้ายและถักทอเป็นเชือกผูกผมสีม่วงให้ เป็นเครื่องรางปกป้องคุ้มครอง Chihiro จากแม่มดดำ เพราะมันคือสายใยแห่งมิตรภาพและความรักที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา และสิ่งนี้คือสิ่งที่จะปกป้องคุ้มครองเธอได้ Zeniba ย้ำว่าได้ผลดีกว่าการใช้เวทย์มนต์เสียอีก การสร้าง positive connection กับ motif/สัญลักษณ์/หรือตัวต่างๆ ในโลกแห่งจิตใจ (Archetypal Images) ในโลกวิญญาณ หรือแม้แต่กับผู้คนในโลกภายนอก เป็นเรื่องที่ดี และเป็นกำลังสำคัญที่จะคอยปกป้องและช่วยเหลือเรา ความรักจะปกป้องเราจากความชั่วร้าย
นอกจากนี้เจ้า No-Face ก็ได้รับเชิญให้อยู่เป็นผู้ช่วย Zeniba เขามีที่อยู่และมีวัตถุประสงค์ (purpose) แล้ว (มีงานทำแล้วคร้าบ อ่ะ อ่ะ) การได้ connect กับด้าน positive อย่าง Zeniba นี้ ให้บทเรียนที่มีประโยชน์มากมาย เธอให้แสงสว่างแห่งปัญญานำทางในความมืด ให้โอกาสได้เติบโต ลงโทษเมื่อทำไม่ดี (เล่นงาน Haku ที่ไปขโมยตราประทับ) แต่ก็รู้จักแยกแยะและให้อภัย มีความรักความเมตตา และที่สำคัญ เธอก็เป็นส่วนหนึ่งของ Chihiro หรือของเรา เพียงแต่ต้องใช้ความพยายามและความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะด้านมืด ถึงจะได้พบกับเธอ (อัพเดท 27/8/14)
Haku ต่อรองกับ Yubaba ว่าเขาจะช่วยพา Boh กลับมาแลกกับการปลดปล่อย Chihiro และพ่อแม่กลับสู่โลกมนุษย์ โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง Haku ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ยอมเสียสละ ถึงตอนที่ไปเจรจาจะยังจำชื่อตัวเองไม่ได้ แต่เขามีความต้องการของตนเองที่ชัดเจนแล้ว บางที Zeniba อาจวางหมากไว้ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ตอนเสกให้น้องโบเป็นหนู เป็นเหมือนบททดสอบ Chihiro และ Haku ถ้า Chihiro ไม่อยากช่วย Haku แล้วเดินทางพร้อมโบจังไปหา Zeniba… Haku ก็จะไม่มีอำนาจต่อรองกับ Yubaba แล้วสามารถออกไปรับ Chihiro และแก๊งกลับมาได้ ลงตัวเวอร์
Haku หายดีแล้ว มารับ Chihiro กลับไปช่วยพ่อแม่ ระหว่างทางกลับ Chihiro จำได้ว่าตอนเด็กเคยตกน้ำ แล้วมีมังกรช่วยเธอไว้ Haku หรือชื่อเต็ม Nigihayami Kohaku Nushi คือเทพแม่น้ำสายนั้นนั่นเอง แม่น้ำถูกถมทับ สะท้อนปัญหาเมืองบุกรุกธรรมชาติ Haku จึงกลายเป็นเจ้าไร้ศาล เทพไร้ที่อยู่ อาจจะโกรธแค้น และอยากมีพลังอำนาจมากขึ้น ถูกด้านมึดครอบงำ จึงมาขอเรียนเวทย์มนต์กับแม่มดดำ และถูกกลืนตัวตน ลืมชื่อตัวเอง กลายเป็นทาสของความบ้าอำนาจ และความโลภ การอยากมีพลังมากขึ้นก็เป็นความโลภอย่างหนึ่ง Chihiro เตือนให้เขาจำตัวเอง และความเมตตาของเขาที่เคยช่วยเหลือเธอตอนเด็กๆ เพื่อนและความรักช่วยเตือนให้เราระลึกถึงตัวตน เมื่อเขาจำตัวเองได้ ก็ปลดจากพันธนาการของแม่มด Yubaba และอยู่เพื่อจุดประสงค์ของตัวเอง อันที่จริง ตัวตนของเราไม่เคยหายไปไหน มันอยู่ที่เดิม แต่เป็นเราที่ลืมหรือละทิ้งมันไป
ด่านรองสุดท้าย Chihiro ต้องรู้จักแยกแยะความจริงและความลวงออกจากกันได้ ด้วยการทายถูกว่าไม่มีหมูพ่อหมูแม่อยู่ในคอกนั้น เพราะเป็นภาพลวงตาที่แม่มดเสกขึ้น Chihiro ผ่านด่านนี้ไปได้ รู้จักแยกแยะถูกผิด ล้างคำสาปให้พ่อแม่ โมฆะสัญญาจ้างงานทาสกับ Yubaba และสามารถกลับไปโลกมนุษย์ หรือโลกแห่งจิตสำนึกได้ เธอรู้ว่าเธอเป็นใคร เธอมุ่งมั่นที่จะช่วยพ่อแม่จากคำสาปแห่งความโลภ ความตะกละ เธอทำงานอย่างหนัก ได้ช่วย Haku และได้ผูกมิตรกับเพื่อนๆ มากมาย ความมุ่งมั่น พลังแห่งมิตรภาพและความรัก ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากการครอบงำของด้าน feminine ที่ชั่วร้าย ที่มีแต่จะกดให้เธอเป็นเด็กไม่โต และไม่สามารถยืนและเดินไปไหนๆ ตามความต้องการของตัวเองซักที (เหมือนน้องโบ)
Haku บอกให้ Chihiro เดินมุ่งหน้ากลับสู่โลกความเป็นจริง โดยจะต้องไม่หันหลังกลับมามอง ความแน่วแน่จะทำให้เราหลุดออกมาจากการจมลงสู่โลกแห่งจิตใจ ความไม่ลังเล ความมั่นคงในเส้นทางที่เดินไป เป็นสิ่งสำคัญ เพราะชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า และทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง การที่จำต้องย้ายโรงเรียน จากเพื่อนๆ มา ก็ไม่ต่างกับการที่ต้องจาก ลุง Kamajii Lin Boh นกกา No-Face Zeniba (รวมถึง Yubaba ด้วย) เธอได้สานสัมพันธ์กับตัวต่างๆ เหล่านั้น มีความรัก ความผูกพัน แต่ก็จำต้องจากมา ชีวิตต้องดำเนินต่อไปข้างหน้า ดังนั้น ตอนที่เดินผ่านอุโมงค์ที่เชื่อมต่อระหว่างสองโลก จึงห้ามหันหลังกลับไป นี่เป็นด่านสุดท้าย เพราะถ้ามัวแต่อาลัยอาวรณ์ และมองย้อนกลับหลัง เธอก็จะจมปลักอยู่ในโลกแห่งวิญญาณ จมปลักอยู่กับอดีต ไม่สามารถหลุดออกไปได้ เธอไม่ได้เสียใครไปแต่จะมีพวกเขาอยู่ในใจตลอดไปเหมือนเนื้อหาในเพลงประกอบตอนจบ (Haku บอกว่าจะได้เจอกันอีกแน่นอน) เพราะถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เจอกันอีก แต่มิตรภาพที่ได้สานสายใยเอาไว้ จะเดินทางไปกับ Chihiro ด้วยทุกที่ พวกเขายังอยู่กับเธอเสมอ เหมือนด้ายผูกผมสีม่วงที่เพื่อนๆ ในโลกวิญญาณช่วยกันปั่นและถักเพื่อมอบให้แก่ Chihiro นั้น ยังผูกอยู่บนผมเธอตอนออกมาที่โลกมนุษย์แล้ว ดูเหมือนว่า Chihiro จะโตขึ้นแล้วนะ
—
* ขยายความ Wind Rises เป็นชีวประวัติของ Dr. Jiro Horikoshi ผู้ออกแบบเครื่องบิน แต่เหมือนว่ามีภาพสะท้อนของพ่อแม่ของ Miyazaki เองซ้อนอยู่ในชีวิตของ Jiro และภรรยา ด้วย เพราะพ่อของ Miyazaki เองก็ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินช่วงสงครามโลก และแม่ก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยโรควัณโรคกระดูกสันหลัง (28/8/14)
Photo credit: imdb
ที่มา: http://deepfilm.net/2014/08/23/deepfilm-spirited-away/